ประเภทของสัตว์

ประเภทของสัตว์ สัตว์ในโลกนี้มีมากมายหลายชนิด นักวิทยาศาสตร์ได้จัดแบ่งสัตว์เป็นกลุ่ม
โดยถือรูปร่างลักษณะที่เหมือนกัน หรือต่างกันเป็นสำคัญ อริสโตเติล นักวิทยาศาสตร์ชาวกรีก
ใช้กระดูกสันหลังเป็นเกณฑ์ในการแบ่งสัตว์ได้เป็น 2 พวก คือสัตว์มีกระดูกสันหลัง คือ
สัตว์ที่มีกระดูกสันหลังเป็นแกนกลางร่างกาย
และสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังคือ สัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลังเป็นแกนกลางร่างกาย


ประเภทของสัตว์มีกระดูกสันหลัง

          สัตว์มีกระดูกสันหลัง (Vertebrate) สิ่งมีชีวิตประเภทนี้มีกระดูกสันหลังหรือไขสันหลัง
สิ่งมีชีวิตที่มีกระดูกสันหลังเริ่มมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลาประมาณ 505 ล้านปี ในยุคแคมเบรียนกลาง
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของช่วงยุคแคมเบรียน โครงกระดูกของไขสันหลัง ถูกเรียกว่ากระดูกสันหลังVertebrate เป็นไฟลัมย่อยที่ใหญ่ที่สุดใน Chordates

         สัตว์มีกระดูกสันหลัง คือกระดูกสันหลังจะอยู่เป็นแนวยาวไปตามด้านหลังของสัตว์
กระดูกสันหลังจะต่อกันเป็นข้อๆ ยืดหยุ่น เคลื่อนไหวได้มีหน้าที่ช่วยพยุงร่างกาย
ให้เป็นรูปร่างทรวดทรงอยู่ได้และยังช่วยป้องกันเส้นประสาทอีกด้วย
สัตว์มีกระดูกสันหลัง นักวิทยาศาสตร์ยังแบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือ

1) ปลา
         ปลาเป็นสัตว์น้ำ มีทั้งที่อาศัยอยู่ในน้ำจืด และน้ำเค็ม
เป็นสัตว์หายใจด้วยเหงือก ที่ทำหน้าที่ในการแลกเปลี่ยนก๊าช
ลักษณะสำคัญ มีรูปร่างเรียวยาว ลำตัวค่อนข้างแบน เพื่อให้มีลักษณะที่เหมาะสมกับการ
เคลื่อนที่ในน้ำ อุณหภูมิในร่างกายของปลาสามารถปรับเปลี่ยนไปตามอุณหภูมิของน้ำที่อาศัยอยู่ได้
ปลาจึงจัดเป็น “สัตว์เลือดเย็น”
การเคลื่อนที่ ปลาใช้ครีบในการว่ายน้ำ เคลื่อนไหว และทรงตัว ครีบของปลามี 5 ชนิด คือ ครีบอก ครีบท้อง ครีบหลัง ครีบก้น และครีบหาง มีเกล็ดปกคลุมตัว มีเส้นข้างตัว เป็นส่วนรับความรู้สึกสั่นสะเทือน
แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ 1. ปลากระดูกอ่อน เช่น ปลาฉลาม ปลากระเบน
                                2. ปลากระดูกแข็ง เช่น ปลาดุก ปลานิล ปลาตะเพียน ฯลฯ





2) สัตว์ครึ่งน้ำครึ่งบก
           สัตว์ครึ่งน้ำครึ่งบก เช่น กบ อึ่งอ่าง คางคก  เขียด ปลา ซาลามานเดอร์ จงโคร่ง งูดิน
สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำจะออกไข่ในน้ำ ตัวอ่อนหายใจด้วยเหงือกและผิวหนัง   เมื่อตัวอ่อนของสัตว์ครึ่งน้ำครึ่งบกออกจากไข่แล้ว จะอาศัยอยู่ ในน้ำช่วงระยะเวลาหนึ่ง เมื่อโตเป็นตัวเต็มวัย จะขึ้นมาอาศัยอยู่บนบก มักอาศัยอยู่บริเวณที่ชื้นแฉะ ผิวหนังจะเปียกชื้น ไม่มีเกล็ด และเป็นสัตว์เลือดเย็น
ลักษณะสำคัญ มีขา 2 คู่ ผิวหนังบาง ไม่มีขน ไม่มีเกล็ด ไม่มีคอ ตาโปนและกลม มีหูแต่ ไม่มีรูหู มีรูจมูกอยู่ด้านบนของปาก ปากกว้าง มีฟันซี่เล็กๆ 2 แฉก และมียางเหนียวเพื่อใช้จับแมลง
การเคลื่อนที่ ตัวอ่อนที่เรียกว่า ลูกอ๊อด อาศัยอยู่ในน้ำ เคลื่อนที่โดยใช้หางโบกไปมา ส่วนตัวเต็มวัยจะเคลื่อนที่โดยการกระโดด





3) สัตว์เลื้อยคลาน
         สัตว์เลื้อยคลาน เช่น จิ้งจก ตุ๊กแก กิ้งก่า จระเข้ เต่า สัตว์ประเภทนี้ส่วนใหญ่อาศัยอยู่บนบก
เป็นสัตว์ที่ส่วนมากดำรงชีวิตอยู่บนพื้นดิน วางไข่บนบก ไข่มีไข่แดงมากเพื่อเป็นอาหารของตัวอ่อน
 แต่มีบางชนิดที่อาศัยอยู่ในน้ำ เช่น เต่าทะเล
ลักษณะสำคัญ เป็นสัตว์เลือดเย็น มีผิวหนังหนา มีเกล็ดแข็งแห้งปกคลุมลำตัวหรือมีกระดองแข็งหุ้มลำตัว หายใจโดยใช้ปอด สามารถแบ่งเป็น 4 ชนิด ตามลักษณะรูปร่างได้ดังนี้
1. งู ลักษณะ ไม่มีขา ลำตัวยาว ไม่มีหู ไม่มีหนังตา
2. กิ้งก่า ตุ๊กแก จิ้งจก จิ้งเหลน ลักษณะ มี 4 ขา อาศัยอยู่บนบก เปลี่ยนสีได้ สลัดหางทิ้งได้
3. จระเข้ ตะโขง ตัวเงินตัวทอง ตะกวด ลักษณะ ผิวหนังเป็นเกล็ดหนาและเหนียว หัวโต ปากกว้าง
 อาศัยอยู่ทั้งบนบกและในน้ำ
4. เต่า ตะพาบน้ำ และกระ ลักษณะ มีกระดองแข็งหุ้มตัว ไม่มีฟัน ขากรรไกรแข็งแรง
 อาศัยอยู่บนบกและในน้ำ

      


4) สัตว์ปีก
            สัตว์ปีก ได้แก่ นก เป็ด ไก่ ห่าน หงส์ มีทั้งที่บินได้ และบินไม่ได้ ส่วนใหญ่อาศัยอยู่บนบก
ลักษณะสำคัญ เป็นสัตว์เลือดอุ่น มีขา 2 ขา และมีปีก 1 คู่รูปร่างเพรียว ร่างกายปกคลุมด้วยขนเป็นแผงคลุมตัวและเป็นปุย ขาหน้าเปลี่ยนเปลี่ยนเป็นปีก ปากเป็นจะงอยแหลมไม่มีฟันกระดูกทั่วร่างกายเป็นโพรง กลวง และเบา มีถุงลมติดกับปอดเพื่อช่วยให้ตัวเบา และระบายความร้อน ไม่มีกระเพาะปัสสาวะ ออกลูกเป็นไข่ และเป็นสัตว์เลือดอุ่น
การเคลื่อนที่ เคลื่อนที่โดยการเดิน กระโดด วิ่ง และบิน บางชนิด สามารถว่ายน้ำได้ เช่น เป็ด ห่าน หงส์ นกเป็ดน้ำ นกเพนกวิน และสัตว์ปีกที่สามารถบินได้ คือ นกชนิดต่างๆ เช่น นกเขา นกพิราบ นกอินทรี รวมทั้งเป็ดและไก่ ส่วนสัตว์ปีกที่บินไม่ได้ ได้แก่ นกกีวี นกกระจอกเทศ และนกเพนกวิน เป็นต้น
การหายใจ หายใจโดยใช้ปอด






5) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม
          สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมมีมากมายหลายชนิด เช่น สุนัข แมว ช้าง ม้า ควาย ลิง โลมา วาฬ พะยูน ค้างคาว ตุ่นปากเป็ด ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่บนบกบางชนิดมีรูปร่างคล้ายปลา อาศัยอยู่ในน้ำ เช่น วาฬ โลมา พะยูน
ลักษณะสำคัญ เป็นสัตว์เลือดอุ่น มีลักษณะพิเศษ คือ ตัวเมียจะมีต่อมน้ำนมไว้ สำหรับเลี้ยงลูกอ่อน
มีขนแบบเส้นปกคลุมตามร่างกาย มีรูหู และใบหู บางชนิดมีขา บางชนิดไม่มีขา มีแขนและขาไม่เกิน 2 คู่ มีต่อมเหงื่อใต้ผิวหนัง ออกลูกเป็นตัว สำหรับตัวตุ่นปากเป็ดเท่านั้นที่ออกลูกเป็นไข่ แต่เมื่อเติบโตแล้วแม่ใช้น้ำนมเลี้ยงเช่นกัน
การเคลื่อนที่ เคลื่อนที่โดยการเดิน วิ่ง กระโดด บางชนิดว่ายน้ำได้
การหายใจ หายใจโดยใช้ปอด



ประเภทของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
           สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เป็นสัตว์ชั้นต่ำ ที่ไม่มีกระดูกเป็นแกนภายในร่างกาย
บางชนิดอาจมีโครงร่าง แข็งที่ไม่ใช่กระดูกอยู่ภายในลำตัวเพื่อช่วยค้ำจุนร่างกาย
และ บางชนิดมีเปลือกแข็งหุ้มอยู่ภายนอก เพื่อป้องกัน อันตราย และใช้ยึดของกล้ามเนื้อ
นักวิทยาศาสตร์พบว่า พวกแมลง เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังกลุ่มใหญ่ที่สุด
ซึ่งอาศัยอยู่บนบกมากกว่า อาศัยอยู่ในน้ำ ปัจจุบันมีการรวมกลุ่มสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นพวกๆ ดังนี้ 

1. พวกฟองน้ำ ได้แก่ ฟองน้ำแก้ว ฟองน้ำหินปูน



2. พวกลำตัวกลวงหรือลำตัวมีโพรง ได้แก่ แมงกะพรุน ปะการัง ไฮดรา ดอกไม้ทะเล


3. พวกหนอนตัวแบน ได้แก่ หนอนตัวแบน เช่น พยาธิใบไม้  


4. พวกหนอนตัวกลม ได้แก่ พยาธิไส้เดือน พยาธิตัวจี๊ด


5. พวกลำตัวเป็นปล้อง ได้แก่  ไส้เดือนดิน   ปลิงน้ำจืด  ทากดูดเลือด


6. พวกมีขาเป็นข้อ  มี 6 ขา ได้แก่ แมลง เช่น ยุง มด ผีเสื้อ แมลงวัน
                            มี 8 ขา ได้แก่ แมง เช่น แมงมุม แมงป่อง เห็บ
       มี 10 ขา เช่น ปู กุ้ง แมงดาทะเล
            มีขาจำนวนมาก เช่น กิ้งกือ ตะขาบ


7. พวกหอยและหมึก เช่น หมึกกระดอง หมึกกล้วย หมึกยักษ์


8. พวกมีผิวขรุขระเป็นหนาม ได้แก่ ดาวทะเล ปลิงทะเล เม่นทะเล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น